สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเขตมิดแอตแลนติก นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกหลังจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ยืนยันว่า 28 ชาติสมาชิกของ IEA จะไม่ระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองฉุกเฉินเป็นรอบที่ 2
สัญญน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดบวก 73 เซนต์ หรือ 0.74% แตะที่ 99.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนร่วงลง 64 เซนต์ หรือ 0.54% ปิดที่ 117.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นทันทีที่ IEA ยืนยันว่า 28 ชาติสมาชิกของ IEA จะไม่ระบายน้ำมันออกจากคลังยุทธภัณฑ์สำรองเป็นรอบที่ 2 หลังจากที่ IEA ได้ตัดสินใจระบายน้ำมัน 60 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองรอบ 2 เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.เพื่อบรรเทาภาวะอุปทานพลังงานตึงตัว อันเป็นผลมาจากสถานการณ์รุนแรงในลิเบีย นอกจากนี้ การที่ญี่ปุ่นมีความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการบูรณะฟื้นฟูประเทศหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น นับเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ IEA ระบายน้ำมันออกจากคลังในครั้งนี้
การระบายน้ำมันเมื่อวันวันที่ 23 มิ.ย.นับเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์การก่อตั้ง IEA ที่ 28 ชาติสมาชิกของ IEA ตัดสินใจระบายน้ำมันออกจากคลังยุทธภัณฑ์สำรอง โดยการตัดสินใจครั้งแรกมีขึ้นในปี 2534 เมื่อเกิดวิกฤตการณ์พลังงานทั่วโลกหลังจากกองกำลังของรัฐบาลอิรักภายใต้การนำของซัดดัม ฮุสเซน ได้บุกโจมตีคูเวต และครั้งที่สองเกิดขึ้นในปี 2548 เมื่อพายุเฮอริเคนแคทรินาได้สร้างความเสียหายต่อโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตในเขตมิดเวสต์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ +3.2 จุดในเดือนก.ค. จากระดับ -7.7 จุดในเดือนมิ.ย.
ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดรายงานว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะไม่ถดถอยในช่วง
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังขานรับข่าวที่ประชุมฉุกเฉินของผู้นำยุโรปมีมติให้ความช่วยเหลือด้านการเงินรอบที่ 2 สำหรับกรีซ ด้วยวงเงินรวม 1.09 แสนล้านยูโร หรือประมาณ 1.55 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ