ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดลบ 67 เซนต์เหตุวิตกเพดานหนี้สหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday July 26, 2011 07:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าสหรัฐอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้หรืออาจจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ หลังจากการเจรจาต่อรองเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ยังไม่มีความคืบหน้า แม้กำหนดเส้นตายวันที่ 2 ส.ค.กำลังใกล้เข้ามาก็ตาม

สัญญน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดลบ 67 เซนต์ หรือ 0.7% แตะที่ 99.20 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 98.52-99.87 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดลบ 73 เซนต์ แตะที่ 117.94 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 116.92-118.45 ดอลลาร์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าสหรัฐอาจเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และอาจทำให้ความต้องการพลังงานทั่วโลกหดตัวลงด้วย โดยความกังวลในเรื่องนี้มีขึ้นหลังจากการเจรจาต่อรองเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ระหว่างประธานาธิบดีโอบามา นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ นายแฮร์รี รี้ด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา และนางแนนซี เพโลซี โฆษกสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่มีความคืบหน้าจนถึงขณะนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้เทขายสัญญาน้ำมันดิบเนื่องจากผลกระทบในด้านบวกจากการที่ผู้นำสหภาพยุโรปได้อนุมัติเงินช่วยเหลือกรีซรอบใหม่มูลค่า 1.09 แสนล้านยูโร เริ่มแผ่วลง เมื่อมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือกรีซลง 3 ขั้น สู่ระดับ Ca จาก Caa1 พร้อมระบุว่า แนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และกรีซยังคงเผชิญกับความเสี่ยงในการชำระหนี้ระยะสั้นที่รุนแรง

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจจะลดลง 0.2%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จีดีพีไตรมาส 2 จะขยายตัวเพียง 1.8% ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาสแรกที่ขยายตัว 1.9% และเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดในรอบหลายปี เนื่องจากต้นทุนราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ