สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง เนื่องจากการเจรจาต่อรองเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธตามเวลาประเทศไทย
สัญญน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดบวก 39 เซนต์ หรือ 0.39% แตะที่ 99.59 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 97.76-100.62 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 34 เซนต์ ปิดที่ 118.28 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 116.53-119.05 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดน้ำมันดิบนิวยอร์กได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา และผู้นำสภาคองเกรส ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอยู่มากเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้และเงื่อนไขต่างๆในการลดยอดขาดดุลงบประมาณ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 59.5 จุด จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 57.6 จุด
อย่างไรก็ตาม แม้การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์จะช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น แต่นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่าหากการเจรจาเรื่องเพดานหนี้ไม่มีความคืบหน้าก่อนวันที่ 2 ส.ค. สหรัฐอาจจะกลายเป็นประเทศที่ผิดนัดชำระหนี้หรืออาจจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการพลังงาน
นักวิเคราะห์จากสตราเทจิก เอนเนอร์จี แอนด์ อิโคโนมิก รีเสิร์ชคาดว่า สัญญาน้ำมันดิบอาจจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ หรืออาจจะร่วงลง 1% จนกว่าผู้นำสภาคองเกรสและรัฐบาลสหรัฐจะสามารถการเจรจาต่อรองกันได้ในเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ นอกจากนี้ คาดว่าเทรดเดอร์จะจับตาดูปัจจัยด้านอุปสงค์และอุปทาน รวมทั้งความคืบหน้าทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจจะลดลง 0.2%