สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของสหรัฐ รวมทั้งยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย.ของสหรัฐที่ร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมาย และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่าเศรษฐกิจชะลอตัวลงในหลายเขต
สัญญน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 2.19 ดอลลาร์ หรือ 2.20% ปิดที่ 97.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 85 เซนต์ หรือ 0.72% ปิดที่ 117.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 ก.ค.พุ่งขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 354.0 ล้าน บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 151.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 213.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 2.0% สู่ระดับ 88.3% สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 0.2%
รายงานสต็อกน้ำมันของ EIA ทำให้นักลงทุนกังวลว่า ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐอาจจะทำให้ความต้องการพลังงานหดตัวลงด้วย นอกจากนี้ รายงานของ EIA สอดคล้องกับรายงานของการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ที่มีขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.0 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังถูกกดดันจากความไม่คืบหน้าเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐ และรายงานที่ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย.ของสหรัฐร่วงลง 2.1% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% รวมทั้งรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ Beige Book ซึ่งระบุว่า เศรษฐกิจขยายตัวเพียงปานกลางในเดือนมิ.ย.และต้นเดือนก.ค. ขณะที่ตลาดแรงงานทั่วประเทศยังคงอ่อนแอ
นักลงทุนจับตาดูผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จีดีพีไตรมาส 2 จะขยายตัวเพียง 1.8% ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาสแรกที่ขยายตัว 1.9% และเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดในรอบหลายปี