ตลาดซื้อขายธัญพืชโตเกียวเริ่มเปิดทำธุรกรรมซื้อขายข้าวล่วงหน้าเป็นครั้งแรกในรอบ 72 ปีแล้ววันนี้ ท่ามกลางแรงกดดันให้มีการระงับการซื้อขาย เนื่องจากตลาดได้รับแต่คำสั่งซื้อที่มีเข้ามาจำนวนมาก อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลต่อภาวะอุปทานตึงตัว
ตลาดถูกกดดันให้ใช้มาตรการระงับการซื้อขายชั่วคราว (circuit breaker) สำหรับสัญญาซื้อขายข้าวพันธุ์โคชิฮิคาริจากภูมิภาคคันโต หลังจากที่ตลาดมีแรงซื้อพุ่งทะลุเพดานขั้นสูงสุดต่อวันที่กำหนดไว้ที่ 600 เยน
การส่งคำสั่งซื้อในวันนี้เกิดขึ้นจากกระแสคาดการณ์ว่า ราคาข้าวจะพุ่งสูงขึ้นจากภาวะอุปทานตึงตัว เพราะได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม รวมถึงวิกฤตสารกัมมันตรังสีรั่วไหลที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิ และภาวะฝนตกหนักในเดือนก.ค.ที่จังหวัดนิอิกาตะ ฟูกุชิม่า และแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญในภูมิภาคอื่นๆ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ณ เวลา 09:00 น.ข้าวพันธ์โคชิฮิคาริจากแหล่งปลูกข้าวโฮคูริคุ ในภาคกลางของญี่ปุ่นงวดส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์คันไซ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 19,210 เยนต่อ 1 กระสอบ (60 กิโลกรัม)
โดยรัฐบาลได้อนุมัติการทำสัญญาซื้อขายข้าวในเดือนก.ค. ซึ่งอนุญาตให้มีการซื้อขายที่ 2 ตลาดนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 72 ปีสำหรับช่วงทดลองเป็นระยะเวลา 2 ปี ซึ่งเดิมทีได้มีการทำสัญญาซื้อขายข้าวที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โอซาก้ามาเป็นเวลา 200 ปี จนถึงปี 2482 ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมาตรการควบคุมเศรษฐกิจในช่วงสงคราม
นายโยชิอากิ วาตานาเบะ ประธานตลาดธัญพืชโตเกียว กล่าวว่า "สัญญาซื้อขายข้าวล่วงหน้าจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานด้านราคาที่เป็นธรรม และเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยง"
ด้านนายยาซุอากิ โอคาโมโตะ ประธานตลาดสินค้าโภคภัณฑ์คันไซกล่าวว่า "ในที่สุดเราได้เห็นถึงความสำคัญในการเริ่มต้นทำธุรกรรมสัญญาซื้อขายข้าวล่วงหน้า"
ทั้งนี้ สัญญาซื้อขายข้าวล่วงหน้ามีขึ้นเพื่อกำหนดมาตรฐานราคาข้าวผ่านการทำธุรกรรมที่ครอบคลุมมากขึ้นในตลาดเสรีและเพื่อให้เกษตรผู้ปลูกข้าวและผู้จำหน่ายข้าวไม่ต้องเผชิญความเสี่ยงจากภาวะผันผวนของราคาสัญญาล่วงหน้า