สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือสหรัฐ นอกจาก นักลงทุนกังวลว่าการที่สหรัฐถูกลดอันดับความน่าเชื่อถืออาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และอาจจะทำให้อุปสงค์พลังงานหดตัวลงด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 5.57 ดอลลาร์ หรือ 6.41% ปิดที่ 81.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 5.63 ดอลลาร์ หรือ 5.15% ปิดที่ 103.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเดือนก.ย.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่า การที่เอสแอนด์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงสู่ระดับ AA+ จากระดับ AAA อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหม่ และอาจจะทำให้ความต้องการพลังงานทั่วโลกหดตัวลงด้วย
กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบและหุ้น และหันไปถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ส่งผลให้สัญญาทองคำทะยานขึ้นเหนือระดับ 1700 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อคืนนี้
โกลด์แมน แซคส์ ยังคงให้น้ำหนักความน่าลงทุนของตลาดน้ำมันดิบและตลาดที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันดิบไว้ที่ระดับ "overweight" อย่างไรก็ตาม โกลด์แมน แซคส์มองว่า ตลาดน้ำมัน NYMEX มีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวลง
ขณะที่เมอร์ริล ลินช์กล่าวในรายงานล่าสุดว่า "เราเชื่อว่าสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย" อย่างไรก็ตาม เมอร์ริล ลินช์ ยังคงระดับการคาดการณ์โดยเฉลี่ยของราคาน้ำนดิบสหรัฐโดยเฉลี่ยในปี 2555 ไว้ที่ 102 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจลดลง 0.5%