ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดลบ $1.23 เหตุวิตกเศรษฐกิจยูโรโซน

ข่าวต่างประเทศ Wednesday August 17, 2011 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) หลังจากที่ประชุมผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสไม่ได้เปิดเผยแนวทางที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาการลุกลามของวิกฤตหนี้ยูโรโซน นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงตัวเลขการสร้างบ้านที่หดตัวลงของสหรัฐ และเศรษฐกิจเยอรมนีที่ขยายตัวช้าลงในไตรมาส 2

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดลบ 1.23 ดอลลาร์ หรือ 1.40% แตะที่ 86.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 44 เซนต์ ปิดที่ 109.47 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบเนื่องจากความผิดหวังที่ผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสไม่ได้เปิดเผยแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ยูโรโซน โดยในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้ นางแองเจลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดเก็บภาษีการทำธุรกรรมการเงินและเพิ่มความแข็งแกร่งในการกำกับดูแลนโยบายเศรษฐกิจเพื่อปกป้องยูโรโซนจากวิกฤตหนี้

แต่ผู้นำทั้งสองไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับมาตรการต่างๆที่จำเป็น รวมถึงการเพิ่มขนาดของกองทุนรักษาเสถียรภาพยุโรป (EFSF) หรือการออกพันธบัตรสกุลเงินยูโร ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ผลการประชุมสุดยอดผู้นำของทั้งสองประเทศยังไม่สามารถขจัดความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปด้วย

นอกเหนือจากความผิดหวังที่มีต่อผลการประชุมดังกล่าวแล้ว ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยยูโรสแตทรายงานว่า เศรษฐกิจของ 17 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรร่วมกัน หรือ ยูโรโซน ขยายตัวเพียง 0.2% ในไตรมาส 2 เทียบกับไตรมาสแรกที่ขยายตัว 0.8% และเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะขยายตัว 0.3%

รายงานระบุว่า สาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัวมาจากเศรษฐกิจเยอรมนีที่ขยายตัวเพียง 0.1% ในไตรมาส 2 หลังจากที่ขยายตัว 1.3% ในไตรมาสแรก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่า เศรษฐกิจโดยรวมในยูโรโซนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะถดถอยรุนแรง

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ค.ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 604,000 ยูนิตต่อปี จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 613,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐซบเซาลงอย่างมาก

ผลสำรวจของมาสเตอร์การ์ด/สเปนดิงพัลส์พบว่า ผู้ขับขี่ยานยนต์ในสหรัฐลดการซื้อน้ำมันเบนซินลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 21 โดยระบุว่า ผู้ขับขี่ยานยนต์ซื้อน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ย 386 ล้านแกลลอนต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 3.4% จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ส.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจจะลดลง 300,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจจะลดลง 0.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ