สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินในรอบสัปดาห์ที่แล้วร่วงลงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่วิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดบวก 93 เซนต์ หรือ 1.07% แตะที่ 87.58 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 86.65-89.00 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.47 ดอลลาร์ ปิดที่ 110.60 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของวันที่ 111.74 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 12 ส.ค.ร่วงลง 3.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 210.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเงินยูโร หลังจากยูโรร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ผลการประชุมระหว่างผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสไม่ได้ระบุถึงมาตรการที่จำเป็นในการยับยั้งการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป
นักลงทุนให้น้ำหนักกับรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) เดือนก.ค.พุ่งขึ้น 0.2% หลังจากที่ปรับตัวลดลง 0.4% ในเดือนมิ.ย. และหากไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงานพบว่า ดัชนีพีพีไอเพิ่มขึ้น 0.4%
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด หลังจาก EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 4.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 354.0 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 154.0 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 700,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลัง การกลั่นน้ำมันลดลง 0.9% สู่ระดับ 89.1% มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 0.5%
รายงานสต็อกน้ำมันของ EIA สอดคล้องกับรายงานของการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 5.4 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.5%