ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนวานนี้ (22 ส.ค.) สัญญาธัญพืชปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนเชื่อว่าฝนที่ตกในภาคกลางของเขตมิดเวสต์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังมีปริมาณไม่มากพอที่จะบรรเทาภัยแล้งลงได้ ในขณะที่ข้าวโพดพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคัก
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่ง 9.25 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 7.345 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 4.75 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 7.66 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่ง 16.75 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 13.8525 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาน้อยเกินไปในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐ, การคาดการณ์เกี่ยวกับคุณภาพของพืชลดลง และภาวะการซื้อขายที่คึกคักในตลาดอื่นๆ ต่างก็เป็นแรงหนุนต่อทั้งตลาดข้าวโพดและตลาดถั่วเหลือง
นักวิเคราะห์กล่าวเสริมว่า มีฝนตกน้อยกว่าการคาดการณ์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และครอบคลุมพื้นที่เพียง 35% ในขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ที่ต้องการน้ำฝนยังคงแห้งแล้งอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ พื้นที่บางส่วนในภาคใต้ของรัฐมินเนสโซตา ภาคเหนือของรัฐไอโอวา และ ภาคกลาง-ตะวันตกของรัฐอิลลินอยส์ มีฝนตกน้อยกว่าปกติถึง 25% นับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นมา และเกือบจะไม่มีพายุฝนในพื้นที่ดังกล่าวในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ รัฐไอโอวาและอิลลินอยส์เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวโพดและถั่วเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ ในขณะที่หน่วยงานติดตามภัยแล้ง มหาวิทยาลัยเนบราสก้า ลินคอล์น ระบุว่า สภาพอากาศในรัฐดังกล่าวอยู่ในช่วงตั้งแต่ "แห้งแล้งผิดปกติ" ไปจนถึง "แห้งแล้งในระดับปานกลาง"
ตลาดคาดว่า ข้าวโพดและถั่วเหลืองที่มีภาวะการเติบโตที่ดี-ดีมาก อาจลดลง 1-2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเพิ่มบรรยากาศที่เป็นบวกต่อตลาด
ส่วนภาวะการซื้อขายในตลาดข้าวสาลีนั้น ราคาข้าวสาลีได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์เกี่ยวกับพื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ลดลงและความวิตกกังวลเกี่ยวกับภัยแล้งจากปรากฏการณ์ "ลา นินา" ในฤดูกาลเพาะปลูกข้าวสาลีที่กำลังจะมาถึง ในขณะที่การเก็บเกี่ยวใสภาพที่ชื้นแฉะในเยอรมนีอาจทำให้คุณภาพของพืชลดลง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน