สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กยังคงปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) ขานรับดัชนีภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของจีน และการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ในการประชุมธนาคารกลางโลกวันศุกร์นี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในคืนนี้
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ หรือ 1.21% ปิดที่ 85.44 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 86.39-83.40 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ หรือ 0.88% ปิดที่ 109.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในช่วงเช้านั้นตลาดได้รับแรงกดดันจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว 5.8 ริกเตอร์ในเขตอีสต์โคสต์ของสหรัฐ โดยแผ่นดินไหวครั้งนี้ส่งผลให้มีการอพยพผู้คน แต่หลังจากนั้นไม่นาน ภาวะการซื้อขายก็เริ่มกลับสู่ภาวะปกติเนื่องจากไม่มีรายงานความเสียหายจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้
ตลาดน้ำมัน NYMEX ได้แรงหนุนจากรายงานของเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ และมาร์กิต อิโคโนมิค ที่ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเบื้องต้น (Flash PMI) ของจีน อยู่ที่ระดับ 49.8 จุดในเดือนส.ค. จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 49.3 จุด ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนส.ค.ของเยอรมนีทรงตัวอยู่ที่ 52 จุด ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 50.8 จุด
นอกจากนี้ สถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไร้เสถียรภาพในลิเบียยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นด้วย ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าการที่ลิเบียจะกลับมาผลิตและส่งออกน้ำมันได้เหมือนเดิมนั้น อาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายปี
เรย์มอนด์ คาร์โบน เทรดเดอร์ เทรดเดอร์รายใหญ่ในตลาดน้ำมัน NYMEX กล่าวกล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) อาจจะเร่งปรับสมดุลอุปทานน้ำมันด้วยการลดปริมาณการผลิต ซึ่งจะทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันในวันข้างหน้าของลิเบียนั้น ไม่มากพอที่จะทำให้ตลาดตกอยู่ในภาวะที่มีอุปทานสูงเกินไป
ตลาดน้ำมัน NYMEX ยังคงได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดจะส่งสัญญาณการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเศรษฐกิจเพิ่มเติม ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองแจ็คสันโฮล รัฐไวโอมิง ในวันศุกร์ที่ 27 ส.ค.นี้ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้มากมายว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะถดถอย โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.ของสหรัฐร่วงลง 0.7% สู่ระดับ 298,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 200,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.1%