สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ส.ค.) ในขณะที่มีรายงานข่าวว่า พายุเฮอริเคนไอรีนกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ชายฝั่งทางตะวันออกของสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดบวก 7 เซนต์ แตะที่ 85.37 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 82.95 - 85.64 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนต.ค.ปิดบวก 74 เซนต์ แตะที่ 111.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวตามปัจจัยด้านสภาพอากาศ โดยพายุเฮอริเคนไอรีน ซึ่งมีความรุนแรงที่ระดับ 2 ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อฐานการผลิตน้ำมันในแถบ Gulf Coast แต่ส่งผลกระทบต่อโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในแถบ East Coast และเป็นที่คาดกันว่า เฮอริเคนไอรีนจะพัดเข้าฝั่งสหรัฐในวันนี้ โดยผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งนักลงทุนกังวลว่าพายุลูกนี้จะส่งผลกระทบให้การผลิตน้ำมันหยุดชะงักลง
ทั้งนี้ มีโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในรัฐเดลาแวร์ นิวเจอร์ซี เพนซิลวาเนีย และเวอร์จิเจีย ปิดการดำเนินงานชั่วคราวเพื่อรับมือกับพายุเฮอริเคนไอรีน ซึ่งโรงกลั่นน้ำมันเหล่านี้มีกำลังการผลิตน้ำมันเบนซินและดีเซลในอัตราส่วน 8% ของกำลังการผลิตทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางการเมืองอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความรุนแรงในประเทศผู้ผลิตน้ำมันอย่างลิเบีย และซีเรีย ซึ่งได้ทวีความตึงเครียดต่อภาวะอุปทานน้ำมัน โดยนักลงทุนคาดว่า ลิเบียจะยังไม่สามารถกลับมาดำเนินการผลิตน้ำมันได้ในเร็วๆนี้
สำหรับปัจจัยทางเศรษฐกิจนั้น ตลาดน้ำมันได้รับอิทธิพลจากการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีขึ้นในการประชุมที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิงด้วย ซึ่งเขาไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวส่งผลให้ตลาดน้ำมันมีบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวน