สัญญาซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรล่วงหน้าในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ต้าเหลียนและเจิ้งโจวยังคงปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ เช่นเดียวกับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และตลาดหุ้นในสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่การขยายตัวต่ำกว่าเมื่อวานนี้ เนื่องจากมีสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะควบคุมสภาพคล่องเพื่อรับมือกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
ในมาตรการคุมเข้มครั้งใหม่ของจีนนั้น ธนาคารกลางจีนได้ขอให้ธนาคารพาณิชย์จ่ายเงินสำรองที่กำหนดไว้ในส่วนของเงินฝากที่วางไว้เป็นหลักประกันตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. ซึ่งตลาดคาดว่า นโยบายใหม่นี้อาจจะทำให้เงินทุนของธนาคารไม่สามารถหมุนเวียนในระบบเป็นมูลค่ากว่า 8 แสนล้านหยวน และจะทำให้สภาพคล่องในตลาดตึงตัวมากขึ้น
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จะยังคงสดใสต่อไปในระยะใกล้นี้ เนื่องจากแนวโน้มที่ดีของเศรษฐกิจมหภาค
สัญญาล่วงหน้าถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการในช่วงวันหยุดและการคาดการณ์ที่ว่าผลผลิตจะลดลงในปีนี้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ได้ระบายถั่วเหลืองในสต็อกออกมาเป็นจำนวนมาก และอาจจะเริ่มเก็บสต็อกใหม่อย่างเต็มที่อีกครั้ง
โดยสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค.ที่มีการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ต้าเหลียนปรับตัวขึ้น 0.34% ปิดที่ 4,732 หยวนต่อตัน ส่วนสัญญาน้ำมันถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดสูงขึ้น 0.86% แตะที่ 10,378 หยวนต่อตัน
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์กล่าวว่า สต็อกจำนวนมากที่ท่าเรือภายในประเทศจะเป็นปัจจัยที่กดดันราคาถั่วเหลืองในระยะสั้น โดยสัญญาถั่วเหลืองในตลาดต้าเหลียนอาจจะยังไม่สดใสเท่ากับสัญญาถั่วเหลืองในตลาด CBOT
ขณะที่สัญญาล่วงหน้าน้ำตาลที่มีการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เจิ้งโจวปิดผันผวนวันนี้ โดยสัญญาส่งมอบเดือนก.ย.บวก 0.18% ปิดที่ 7,659 หยวนต่อตัน และสัญญาเดือนม.ค.ที่มีการซื้อขายคึกคักที่สุด ลดลง 0.21% ปิดที่ 7,187 หยวนต่อตัน
ทั้งนี้ ข้อมูลยอดขายน้ำตาลเดือนส.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในช่วงต้นเดือนก.ย.นี้ อาจจะเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาดน้ำตาลเจิ้งโจวได้ อย่างไรก็ดี ด้วยเหตุที่รัฐบาลเตรียมเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลตลาดน้ำตาลในช่วงที่การบริโภคสูงสุดกำลังใกล้เข้ามา ราคาน้ำตาลจึงยังไม่มีแนวโน้มว่าจะพุ่งสูงขึ้นมากก่อนที่จะถึงวันหยุดในวันชาติจีน ซึ่งตรงกับต้นเดือนต.ค.นี้ นักวิเคราะห์คาดว่า แนวต้านจะอยู่ที่ 7,300 - 7,350 หยวนต่อตันในระยะใกล้นี้
สำหรับสัญญาล่วงหน้าฝ้ายที่มีการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เจิ้งโจวปรับตัวขึ้นปานกลาง เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการสำรองฝ้ายซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนก.ย.นี้ โดยคาดว่าตลาดฝ้ายอาจจะฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนือง และราคาจะเพิ่มขึ้นในระดับปานกลางต่อไป
สัญญาที่มีการซื้อขายคึกคักที่สุด ได้แก่ สัญญาเดือนพ.ค.ซึ่งปิดที่ 21,760 หยวนต่อตัน เพิ่มขึ้น 0.44% ดัชนี CCIndex 328 ซึ่งเป็นดัชนีราคาฝ้ายแห่งชาติที่บ่งชี้ถึงราคาเฉลี่ยของเส้ยใยฝ้ายในจีน เพิ่มขึ้น 20 หยวน แตะ 19,247 หยวนต่อตัน
ปัจจุบัน ความต้องการฝ้ายจากอุตสาหกรรมปลายน้ำยังคงซบเซา เนื่องจากโรงงานปั่นด้ายยังคงใช้สต็อกเดิมที่มีอยู่ป้อนการผลิต และความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจจะเป็นปัจจัยที่จำกัดราคาฝ้าย สำนักข่าวซินหัวรายงาน