ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX:น้ำมันดิบปิดลบ 9 เซนต์หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ Thursday September 1, 2011 07:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของดีมานด์พลังงานในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมภายในประเทศพุ่งขึ้นเกินคาด

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดลบ 9 เซนต์ หรือ 0.10% แตะที่ 88.81 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 87.67-89.54 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 114.85 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 113.52-115.19 ดอลลาร์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของดีมานด์พลังงานในสหรัฐ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ส.ค.พุ่งขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 357.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล สู่ระดับ 156.1 ล้านบาร์เรล แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 208.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.1% สู่ระดับ 89.2% สวนทางกับที่คาดว่าจะทรงตัว

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมภายในประเทศ พุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 4.532 แสนล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.9% เพราะได้แรงหนุนจากความต้องการรถยนต์และเครื่องบินที่ปรับตัวสูงขึ้น

เทรดเดอร์ในตลาดน้ำมันนิวยอร์กจับตาดูทิศทางโคจรของพายุ "แคเทีย" อย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่พายุลูกนี้ได้ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติก และมีกำลังลม 1,010 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในขณะเคลื่อนตัวไปยังพื้นที่ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่เกาะเคปเวิร์ด โดยคาดว่าพายุแคเทียจะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นพายุเฮอริเคนในวันพฤหัสบดีนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐในคืนวันศุกร์นี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 75,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนส.ค.จะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 9.1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ