สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยรอบใหม่ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนส.ค.หยุดชะงักลง หรือไม่มีการขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคการผลิตทั้งในสหรัฐและยุโรป
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 2.48 ดอลลาร์ หรือ 2.79% ปิดที่ 86.45 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 85.42-88.99 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ร่วงลง 1.96 ดอลลาร์ หรือ 1.71% ปิดที่ 112.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐว่า ความขัดแย้งในเรื่องเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐและตลาดหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนัก ส่งผลให้ภาคธุรกิจระงับการจ้างงานในเดือนส.ค. ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยรอบใหม่
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรหยุดชะงักในเดือนส.ค. โดยไม่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก.ค. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 75,000 ตำแหน่ง และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือนที่ตัวเลขจ้างงานของสหรัฐไม่มีการขยายตัว ส่วนอัตราว่างงานเดือนส.ค.อยู่ที่ระดับ 9.1% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคการผลิตทั่วโลก โดยดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.ของสหรัฐขยายตัวที่ระดับ 50.6 จุด ซึ่งลดลงจากเดือนก.ค.ที่ขยายตัว 50.9 จุด ขณะที่ดัชนีภาคการผลิตในยูโรโซนร่วงลงแตะ 49 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 50.4 จุด
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดเชื่อว่า ข้อมูลด้านแรงงานในเดือนส.ค.อาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดน้ำมัน เนื่องจากสัญญาน้ำมัน NYMEX ซื้อขายกันในรูปสกุลเงินดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมัน NYMEX ได้แรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า พายุโซนร้อน "ลี" ได้ก่อตัวขึ้นในอ่าวเม็กซิโก ขณะที่สำนักงานจัดการด้านพลังงานในมหาสมุทรของสหรัฐรายงานว่า อิทธิพลของพายุลีส่งผลให้บริษัทพลังงานหลายแห่งต้องอพยพพนักงานออกจากฐานการผลิตและแท่นขุดเจาะในภูมิภาคดังกล่าว ซึ่งทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกลดลงเกือบครึ่งหนึง และยังทำให้การผลิตก๊าซธรรมชาติลดลง 1 ใน 3
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐเตือนว่า หย่อมความกดอากาศต่ำในอ่าวเม็กซิโกจะทำให้พายุลีทวีความรุนแรงมากขึ้น และอาจจะทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่บางส่วนของรัฐหลุยเซียนาในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่ผู้ว่าการรัฐหลุยเซียนาได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยคาดว่าอิทธิพลของพายุลีจะทำให้ปริมาณน้ำฝนสูงถึง 15 นิ้วในอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้า