ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 ก.ย.) สัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองฟื้นตัว เพราะได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่าสภาพอากาศที่ยังคงร้อนและแห้งแล้งในบางพื้นที่ของเขตมิดเวสต์ในสัปดาห์นี้อาจทำให้พืชท้องถิ่นได้รับความเสียหาย ในขณะที่ข้าวสาลีก็พุ่งแรงอันเนื่องมาจากปัจจัยสภาพอากาศเช่นเดียวกัน
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่ง 21.5 เซนต์ หรือ 3% ปิดที่ 7.6 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่ง 14.5 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 7.755 ดอลลาร์/บุชเชล และ สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 11.25 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 14.4575 ดอลลาร์/บุชเชล
เทรดเดอร์กล่าวว่า ข้าวโพดปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากนักลงทุนให้น้ำหนักกับภาวะอุปทานตึงตัวมากกว่าความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์ นอกจากนี้ แม้ว่าการที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและตลาดหุ้นร่วงลงได้เพิ่มแรงกดดันต่อตลาดธัญพืช แต่ราคาข้าวโพดก็สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงในภาคกลางของรัฐอิลลินอยส์ในสัปดาห์นี้อาจเพิ่มความกดดันต่อพืชท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น
ส่วนราคาถั่วเหลือได้รับแรงหนุนจากความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นที่ว่าภาวะการเติบโตของพืชในฤดูกาลเพาะปลูกล่าสุดจะส่งผลให้ยอดการผลิตลดลงด้วย
นายทิม แฮนนาแกน นักวิเคราะห์อาวุโสจาก PFGbest ในชิคาโกกล่าวว่า "หลังจากที่ราคาธัญพืชร่วงลงตลอดทั้งสัปดาห์ นักลงทุนได้เข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรในวันศุกร์ นอกจากนี้ ราคาธัญพืชยังได้แรงหนุนจากรายงานการประมาณการผลผลิตข้าวสาลีและพืชตระกูลถั่วที่ปรับตัวลดลงด้วย"