สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะซบเซาในตลาดแรงงานของสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้แสดงความกังวลว่าเศรษฐกิจยุโรปมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้แรงหนุนในระหว่างวันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงของสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ขยับลง 29 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดที่ 89.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.25 ดอลลาร์ หรือ 1.08% ปิดที่ 114.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ก.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 414,000 ราย จากสัปดาหก่อนหน้านั้นที่ระดับ 412,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 405,000 ราย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากทริเชต์ ประธานอีซีบีได้แถลงภายหลังการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวได้ฉุดสกุลเงินยูโรดิ่งลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ส่วนในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการอีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5%
ตลาดได้รับปัจจัยลบมากขึ้นเมื่อนักลงทุนได้แสดงความผิดหวังที่เบอร์นันเก้ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมาคมเศรษฐกิจ ที่รัฐมินเนโซตาเมื่อวานนี้ โดยเบอร์นันเก้กล่าวเพียงว่า เฟดจะทำทุกอย่างเท่าที่สามารถทำได้เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ก.ย. ร่วงลง 4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล เนื่องจากสหรัฐลดการนำเข้าน้ำมันดิบ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่ายอดขาดดุลการค้าเดือนก.ค.ปรับตัวลดลง 13.1% สู่ระดับ 4.48 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากยอดการนำเข้าลดลง ในขณะที่ยอดการนำเข้าพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักลงทุนจับตาดูการแถลงมาตรการสร้างงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเช้าวันศุกร์ตามเวลาประเทศไทย โดยมีการคาดการณ์ว่าโอบามาจะเสนอใช้มาตรการดังกล่าววงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์