สัญญาน้ำมันดิบเดือนต.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ปรับตัวขึ้น 45 เซนต์ แตะที่ 89.50 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ (9 ก.ย.) จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 89.05 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าแผนการสร้างงานมูลค่า 4.47 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ จะช่วยหนุนความต้องการเชื้อเพลิงให้เพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า พายุโซนร้อน "เนท" อาจจะทวีกำลังจนกลายเป็นพายุเฮอริเคน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุปทานพลังงานในสหรัฐ รวมทั้งรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ก.ย.ร่วงลง 4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 353.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล สู่ระดับ 156.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะลดลง 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล สู่ระดับ 208.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.2% สู่ระดับ 89.0% น้อยกว่าที่คาดว่าจะร่วงลง 0.8%