สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรในช่วงท้าย หลังจากที่สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงเมื่อวันศุกร์และปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงเช้าของการซื้อขายในวันจันทร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปิดบวกไม่มากนักเนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป และหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้และปีหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 95 เซนต์ หรือ 1.09% ปิดที่ 88.19 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 85.00-88.95 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 52 เซนต์ หรือ 0.46% ปิดที่ 112.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาร่วงลงในช่วงก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรีซออกมายอมรับว่า รัฐบาลกรีซมีเงินสดเพียงพอสำหรับการบริหารประเทศไปได้จนถึงเดือนหน้าเท่านั้น และกรีซมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้บางส่วน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อกลุ่มโอเปคปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกประจำปี 2554 และ 2555 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มย่ำแย่ลง โดยรายงานล่าสุดของโอเปคระบุว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกอาจจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.06 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2554 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ราว 150,000 บาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ โอเปคยังคาดว่าอุปสงค์น้ำมันในปี 2555 อาจเพิ่มขึ้นเพียง 1.27 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ราว 40,000 บาร์เรล/วัน พรอ้มระบุว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกซบเซาลงด้วย
ส่วนปัจจัยอื่นๆที่สร้างแรกดดันต่อตลาดน้ำมัน NYMEX นั้น รวมถึงการที่กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปิดโรงกลั่นในอ่าวเม็กซิโกเริ่มบรรเทาลง หลังจากพายุโซนร้อนเนทได้เปลี่ยนทิศทางโคจรและไม่ได้สร้างความเสียหายต่อแท่นขุดเจาะในภูมิภาคดังกล่าว
นอกจากนั้นมีรายงานว่า บริษัท อาราเบียน กัลฟ์ ออยล์ ของลิเบีย ประกาศว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตที่บ่อน้ำมันทางฝั่งตะวันออกของประเทศ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าอุปทานน้ำมันของลิเบียจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากที่หยุดชะงักลงอันเนื่องจากสงครามกลางเมืองในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 400,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.9%