สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และจากการที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 2.02 ดอลลาร์ หรือ 2.29% ปิดที่ 90.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดที่ 111.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมัน NYMEX ได้แรงหนุนจากการที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วจะร่วงลง 3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 400,000 บาร์เรล แต่คาดว่าสต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.9% โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานดังกล่าวในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะร่วงลงนั้น ได้ช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น หลังจากที่สัญญาร่วงลงในช่วงเช้าภายหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกประจำปี 2554 และ 2555 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มย่ำแย่ลง โดยรายงานล่าสุดของโอเปคระบุว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกอาจจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.06 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2554 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ราว 150,000 บาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ โอเปคยังคาดว่าอุปสงค์น้ำมันในปี 2555 อาจเพิ่มขึ้นเพียง 1.27 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ราว 40,000 บาร์เรล/วัน พร้อมระบุว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกซบเซาลงด้วย
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกทั้งในปีนี้และปีหน้า เนื่องจากภาวะซบเซาของเศรษฐกิจโลกทำให้ความต้องการน้ำมันทั่วโลกชะลอตัวลงด้วย นอกจากนี้ IEA คาดว่า การผลิตน้ำมันในลิเบียจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งจะทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดเพิ่มขึ้น และฉุดราคาน้ำมันลดลงด้วย
นักลงทุนจับตาดูการประชุมระหว่างนางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี, นายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซ ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ โดยนักลงทุนคาดหวังว่า ที่ประชุมจะมีการหารือกันถึงแนวทางการช่วยเหลือกรีซและยับยั้งการลุกลามของหนี้สาธารณะในยุโรป