สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 ก.ย. พุ่งขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 210.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 400,000 บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมั่นกลั่นพุ่งขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 158.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 800,000 บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันดิบลดลง 6.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 346.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 3 ล้านบาร์เรล เนื่องจากโรงกลั่นหลายแห่งต้องปิดการดำเนินงานเนื่องจากผลกระทบของพายุโซนร้อน "ลี" ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นลดลง 2.0% สู่ระดับ 87.0%
สต็อกน้ำมันดิบข้างต้นไม่นับรวมกับน้ำมันในคลังยุทธภัณฑ์สำรอง (Strategic Petroleum Reserve - SPR) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ปริมาณ 697 ล้านบาร์เรล โดยรัฐบาลสหรัฐจะระบายน้ำมันออกจากคลังดังกล่าวก็ต่อเมื่อเกิดภาวะอุปทานตึงตัวที่เป็นผลมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ การโจมตีของผู้ก่อการร้าย และสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมือง สำนักข่าวซินหัวรายงาน