ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 ก.ย.) สัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวลดลง เนื่องจากตลาดคาดว่าความเสียหายจากภาวะน้ำค้างแข็งในเขตเมิดเวสต์ของสหรัฐจะจำกัดอยู่เพียงแค่ในซีกภาคเหนือของรัฐมินเนสโซตา ในขณะที่ข้าวสาลีก็ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วง 23.25 เซนต์ หรือ 3.2% ปิดที่ 7.01 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วง 8.5 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 6.96 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วง 24 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 13.5875 ดอลลาร์/บุชเชล
ก่อนหน้านี้สัญญาข้าวโพดได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ผลผลิตข้าวโพดของสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุด อาจได้รับความเสียหายจากภาวะน้ำค้างแข็งในช่วงก่อนที่พืชจะเจริญเติบโตเต็มที่ อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์บางรายตั้งข้อสังเกตว่า การเกิดภาวะน้ำค้างแข็งในช่วงกลางคืนอาจอยู่ในวงจำกัด ยกเว้นพืชที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ในซีกภาคเหนือขงอรัฐมิสเนสโซตา
นักวิเคราะห์ในตลาดกล่าวว่า การคาดการณ์เกี่ยวกับภาวะน้ำค้างแข็งในช่วงกลางคืนไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คาดการณ์ไว้ เพราะถึงแม้ว่าอุณหภูมิจะลดลง แต่ก็ถือว่าเกิดน้ำค้างแข็งเพียงเล็กน้อย ไม่ถึงขั้นกับทำให้พืชได้รับความเสียหาย
รายงานการส่งออกข้าวโพดประจำสัปดาห์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.127 ล้านตัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงการคาดการณ์ทางการค้าเป็นอย่างมาก ส่วนยอดการส่งออกถั่วเหลืองประจำสัปดาห์อยู่ที่ 351,900 ตัน ต่ำกว่าการคาดการณ์ และยอดส่งออกข้าวสาลีในสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 413,000 ตัน
การอ่อนค่าลงของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐและการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดน้ำมันดิบนั้น ไม่ได้เป็นแรงหนุนต่อตลาดธัญพืช ในขณะที่การร่วงลงของตลาดโลหะมีค่ากลับเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดธัญพืชมากยิ่งขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน