การขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเริ่มฟื้น หลังพบแหล่งน้ำมันใต้ทะเลลึกหลายจุด

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า การขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเริ่มฟื้นตัว โดยได้รับแรงหนุนจากการค้นพบแหล่งน้ำมันใต้ทะเลลึกแห่งใหม่ๆ รวมทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่าเดิม

ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐได้ระงับการขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกหลายจุด หลังเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลจากบ่อน้ำมันของบริษัทบีพีเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเหตุเกิดน้ำมันรั่วนอกชายฝั่งที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ

วอลล์สตรีท เจอร์นัล ระบุว่า ขณะนี้การขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเริ่มกลับสู่ภาวะเกือบปกติ โดยมีแท่นขุดเจาะ 23 แท่นทำการขุดบ่อน้ำมันในน้ำลึกเกิน 3,000 ฟุต ซึ่งปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนให้การขุดเจาะน้ำมันฟื้นตัวคือ การค้นพบแหล่งน้ำมันใต้ทะเลลึกหลายแห่งในปีนี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บีเอชพี บิลลิตัน พีแอลซี และ เชฟรอน คอร์ป ประกาศว่า บริษัทได้ค้นพบแหล่งน้ำมันใหม่ในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งมีปริมาณหลายพันล้านบาร์เรล ซึ่งมากพอที่จะทำให้อ่าวเม็กซิโกเป็นแหล่งผลิตน้ำมันแหล่งใหญ่ไปอีกหลายปี

นอกจากนี้ วอลล์สตรีท เจอร์นัล ระบุว่า ปัจจัยที่ผลักดันให้เกิดการสำรวจแหล่งน้ำมันใหม่ๆ คือราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่าเดิม ซึ่งทำให้นักธรณีวิทยาสามารถตรวจหาแหล่งน้ำมันที่อยู่ไกลได้ก่อนทำการขุด

สำนักงานบริหารจัดการพลังงานในมหาสมุทร เปิดเผยว่า ในปี 2553 มีการผลิตน้ำมันราว 1.54 ล้านบาร์เรล/วันจากอ่าวเม็กซิโก

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่า ในปี 2554 สหรัฐจะผลิตน้ำมันราว 1.43 ล้านบาร์เรล/วันจากอ่าวเม็กซิโก สำนักข่าวซินหัวรายงาน