ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) สัญญาข้าวสาลีและถั่วเหลืองร่วงหนัก เนื่องจากการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ทำให้สินค้าโภคภัณฑ์เกษตรขาดความน่าสนใจ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นยังเพิ่มความกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาด CBOT ด้วย ส่วนข้าวโพดดีดตัวกลับมาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่อ่อนแรงลงในช่วงเช้า เพราะตลาดได้รับข่าวเกี่ยวกับอุปสงค์
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ดีดตัว 0.25 เซนต์ หรือ 0.36% ปิดที่ 6.9225 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วง 15.25 เซนต์ หรือ 2.2% ปิดที่ 6.73 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วง 19.5 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 13.36 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ และการปรับตัวลดลงของตลาดอื่นๆ
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเปรียบเทียบค่าเงินสกุลดอลลาร์เทียบค่าเงินสกุลหลัก 6 สกุลในตระกร้าเงิน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.67 จุด สู่ 77 จุด เมื่อวานนี้ ซึ่งโดยปกติ การแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ถือเป็นปัจจัยลบต่อสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องจากสินค้าเหล่านั้นจะมีราคาสูงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองเป็นเงินสกุลอื่นๆ
การแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ยังทำให้ราคาน้ำมันที่ตลาดนิวยอร์กปรับตัวลดลง 2.37 ดอลลาร์ สู่ระดับ 85.81 ดอลลาร์ต่อบารร์เรล ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐได้รับผลกระทบจากการปรับฐาน ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ
นอกจากนี้ รายงาน Commitment-of-Traders ประจำสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 กันยายน ยังบ่งชี้ว่า กลุ่มกองทุนในตลาดข้าวโพดได้ส่งคำสั่งซื้อในปริมาณ 242,204 สัญญา ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น 27,937 สัญญา และสัญญาสั่งคำสั่งขายเพิ่มขึ้นเป็น 50,649 สัญญา
ในส่วนของตลาดข้าวสาลี ปริมาณน้ำฝนที่ตกมากกว่าการคาดการณ์ในบางพื้นที่ของเขตที่ราบในภาคตะวันออกในช่วงสุดสัปดาห์ และการคาดการณ์ที่ว่า รัสเซียและยูเครนจะยังส่งออกข้าวสาลีไปยังตลาดโลกในราคาที่ต่ำกว่าข้าวสาลีสหรัฐอย่างต่อเนื่องนั้น ยังเพิ่มแรงกดดันต่อราคาข้าวสาลีมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวในตลาดว่า ผู้ซื้อจากจีนกำลังสอบถามราคาข้าวโพดจากอาร์เจนตินาและสหรัฐ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนราคาข้าวโพดให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งหลังจากที่อ่อนแรงลงในช่วงเช้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน