สัญญาน้ำมันดิบที่ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่ากรีซอาจจะได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินรอบสอง หลังจากการประชุมทางไกลระหว่างรัฐบาลกรีซ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) เสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมคืนวันพุธที่ 21 ก.ย.ตามเวลาไทย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งจะมีขึ้นในคืนวันพุธเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 1.19 ดอลลาร์ หรือ 1.39% ปิดที่ 86.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 1.28% ปิดที่ 110.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ดีดตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กรีซอาจจะได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินครั้งใหม่ หลังจากที่การประชุมทางไกลระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐบาลของกรีฐ ไอเอ็มเอฟ และอียู เสร็จสิ้นลงเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ขณะที่เดียวกันนักลงทุนคาดว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) จะประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมครั้งล่าสุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีได้เริ่มการประชุมวันที่สองแล้วในวันนี้ และจะประกาศผลในช่วงดึกวันนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักลงทุนคาดว่าเฟดจะตัดสินใจใช้มาตรการเพิ่มเติมหลังจากเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอลงมากในช่วงที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากอัตราว่างงานที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 9% ซึ่งนักลงทุนคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะใช้มาตรการ "Operation Twist" หรือการเพิ่มอายุการไถ่ถอนของสินทรัพย์ในงบดุล โดยมีเป้าหมายเพื่อกดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ซึ่งช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
การคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมครั้งนี้ ได้ฉุดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่หนุนสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ดีดตัวขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกอาจจะทำให้ความต้องการพลังงานซบเซาลงด้วย หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกลงเหลือ 4% ในปีนี้และปีหน้า จากเดิมที่คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 4.3% ในปีนี้ และคาดว่าจะขยายตัว 4.5% ในปีหน้า พร้อมกับเตือนว่าเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ "ระยะที่เป็นอันตราย" แล้ว
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.9%