ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: วิตกศก.ถ่วงน้ำมันดิบปิดร่วง $2.94 หวั่นอุปสงค์หด

ข่าวต่างประเทศ Saturday October 1, 2011 07:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลงปิดที่ระดับต่ำกว่า 79 ดอลลาร์ เมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่า เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจะฉุดรั้งความต้องการพลังงานให้ลดลงตามไปด้วย

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 2.94 ดอลลาร์ หรือ 3.58% ปิดที่ 79.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2553 สำหรับตลอดทั้งเดือนก.ย. ราคาน้ำมันร่วงลง 10.82% และทรุดลง 17% ตลอดทั้งไตรมาส ซึ่งเป็นการปิดท้ายไตรมาสที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสสี่ของปี 2551

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.19 ดอลลาร์ หรือ 1.14% ปิดที่ 102.76 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับตลอดทั้งเดือนก.ย. ราคาดิ่งลง 10.53% และลดลง 8.64% ในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการร่วงหนักสุดในรอบห้าไตรมาส

ทั้งนี้ หลังจากที่ราคาดีดตัวขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี สัญญาน้ำมันก็ถูกเทขายและกลับมาปรับตัวลดลงอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ภายหลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ และวิกฤตหนี้ยุโรปที่ยังไม่มีทางแก้

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคขยับขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนก.ค. ขณะที่รายได้ผู้บริโภคลดลง 0.1% ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค.2552

ส่วนในยุโรปนั้น แม้ประเทศในยูโรโซนมีมติเห็นชอบให้ขยายกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) แต่อนาคตของกรีซก็ยังคงมืดมน และสกุลเงินยูโรก็ยังเผชิญความเสี่ยง

เรย์มอนด์ คาร์โบน เทรดเดอร์อาวุโสในตลาด NYMEX กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า มาตรการที่สหภาพยุโรป (อียู) นำมาใช้ในระยะนี้ สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น "มันไม่ใช่ทางออกสุดท้าย" เขากล่าว และเสริมว่า สถานการณ์ในยุโรปจะไม่เปลี่ยนแปลงในเร็วๆนี้ อีกทั้งจะเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจอียูและเศรษฐกิจโลกด้วย

นักวิเคราะห์กล่าวว่า นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตของจีนที่ชะงักงันก็ยิ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน และส่งผลให้นักลงทุนตัดสินใจเทขายสัญญาน้ำมัน โดยเอชเอสบีซีเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนก.ย.ทรงตัวอยู่ที่ 49.9 จุด ซึ่งดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตหดตัวลง

ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปที่ร่วงลงก็ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดน้ำมัน โดยเมื่อวันศุกร์ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วง 240.60 จุด หรือ 2.16% ปิดที่ 10,913.38 จุด และเป็นการปิดท้ายไตรมาสที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ