สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกและยังได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปีนี้ด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องวิกฤตหนี้ยุโรป อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบสามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้ หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.94 ดอลลาร์ หรือ 2.50% ปิดที่ 75.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.92 ดอลลาร์ หรือ 1.89% ปิดที่ 99.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.ที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ระดับต่ำกว่า 100 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงเนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซนและการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกอาจทำให้ความต้องการพลังงานลดน้อยลงด้วย
ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ทั่วโลกลงสู่ระดับ 3.8% ในปีนี้ จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ 3.9% และยังได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีทั่วโลกในปีหน้าลงเหลือ 3.5% จากระดับ 4.2% เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินในยุโรปยังคงถดถอย
ขณะเดียวกันโกลด์แมน แซคได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีของยูโรโซนลงมาอยู่ที่ระดับ 0.1% ในปี 2555 จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.3% และคาดว่าจีดีพีในปีนี้จะขยายตัว 1.6% พร้อมกับปรับลดคาดการณ์มูลค่าสกุลเงินยูโร ณ สิ้นปี 2554 ลงสู่ระดับ 1.38 ยูโรต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.40 ยูโรต่อดอลลาร์
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ยังได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปี 2554 และ 2555 โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในตลาดโลกจะอยู่ที่ 112.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ สิ้นปี 2554 เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 119.50 ดอลลาร์/บาร์เรล และคาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ณ สิ้นปี 2555 จะอยู่ที่ 122.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลงจากที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ที่ 138.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมัน NYMEX ได้รับปัจจัยลบจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนล็อตใหม่ในโรงงานของสหรัฐหดตัวลง 0.2% ในเดือนส.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัว หลังจากที่ยอดสั่งซื้อปรับตัวสูงขึ้น 2.1% ในเดือนก.ค. อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบสามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้หลังจากเบอร์นันเก้แถลงต่อคณะกรรมาธิการร่วมด้านเศรษฐกิจของสภาคองเกรสเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากจำเป็น
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนสหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 600,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.7%