สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือภาคธนาคารของยุโรป โดยธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศว่าจัดหาสภาพคล่องให้กับธนาคารในยุโรปที่ประสบปัญหาการระดมทุนในตลาดอินเตอร์แบงก์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขคนว่างงานของสหรัฐขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในรอบสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 2.91 ดอลลาร์ หรือ 3.65% ปิดที่ 82.59 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 79.08-82.90 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 3 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 105.73 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 101.53-105.88 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนผ่อนคลายจากความกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ในภาคธนาคาร หลังจากอีซีบีประกาศว่าจัดหาสภาพคล่องเพิ่มเติมให้กับตลาดการเงินในยุโรป ผ่านโครงการซื้อพันธบัตรครั้งใหม่ ซึ่งมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการจัดหาสภาพคล่องเพิ่มเติมให้กับธนาคารที่ประสบปัญหาการระดมทุนในตลาดอินเตอร์แบงก์ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้
ขณะเดียวกัน อีซีบียืนยันว่าจะใช้มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ และเข้าซื้อสินทรัพย์มูลค่า 4 หมื่นล้านยูโรเป็นเวลา 1 ปี โดยมีเป้าหมายที่จะลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ พร้อมประกาศขยายมาตรการ QE อีก 7.5 หมื่นล้านปอนด์
ตลาดน้ำมัน NYMEX ได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อนายโฮเซ มานุเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ส่งสัญญาณในด้านบวกว่า อีซีได้เสนอให้ผู้นำยุโรปร่วมมือกันอย่างจริงจังมากขึ้นในการเพิ่มทุนให้กับธนาคารที่ประสบปัญหาด้านการเงิน ขณะที่นางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้เรียกร้องให้สมาชิกยูโรโซนเร่งสนับสนุนมาตรการเพิ่มทุนให้กับธนาคาร เพื่อหนุนเศรษฐกิจมหภาคในยูโรโซนให้แข็งแกร่งขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการรายงานยอดขายที่เพิ่มขึ้นของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐ และรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นเพียง 6,000 ราย สูระดับ 401,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้