ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นในวันศุกร์ (7 ต.ค.) ในขณะที่ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐดีกว่าที่คาดไว้ แม้ว่าบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือฟิทช์ได้ปรับลดอันดับเครดิตของอิตาลีและสเปนก็ตาม
น้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.บวก 39 เซนต์ หรือ 0.47% มาปิดที่ 82.98 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่แตะจุดสูงสุดที่ 84.00 ดอลลาร์/บาร์เรล และสำหรับสัปดาห์นี้ ราคาพุ่งขึ้น 3.78 ดอลลาร์ หรือ 4.77% โดยฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดรอบ 1 ปีเมื่อวันอังคาร ซึ่งราคาในระดับต่ำนั้นได้รับแรงกระตุ้นจากความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยุโรป อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาจะเดินหน้าขึ้นต่อไปในอีกหลายเดือนข้างหน้า
ในลอนดอน น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.บวก 15 เซนต์ มาปิดที่ 105.88 ดอลลาร์/บาร์เรล และสำหรับสัปดาห์นี้ ราคาดีดตัว 3.12 ดอลลาร์ หรือ 3.04%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบได้แรงหนุน หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 103,000 ตำแหน่ง ซึ่งดีกว่าระดับ 60,000 ตำแหน่งที่คาดไว้ และได้มีการทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในเดือนส.ค. ซึ่งตัวเลขที่ดีขึ้นนั้นช่วยบรรเทาความวิตกเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้ง ซึ่งเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นบ่งชี้ถึงอุปสงค์พลังงานที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ 9.1% ซึ่งแสดงถึงภาวะที่ยากลำบากของตลาดแรงงาน
เมื่อวานนี้ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิตของอิตาลี โดยระบุให้แนวโน้มเครดิตระยะยาวอยู่ในเชิงลบ นอกจากนี้ ฟิทช๋ยังปรับลดอันดับเครดิตของสเปน โดยระบุถึงความเสี่ยงของการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เชื่องช้าและหนี้สินในภูมิภาคที่ระดับสูง โดยความวิตกเกี่ยวกับหนี้สินยุโรปยังคงถ่วงราคาน้ำมันดิบ