สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ห้าเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกสำหรับปีนี้และปีหน้า เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยราคาเดินหน้าขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา จากความหวังว่าผู้นำยุโรปจะประกาศแผนการใหม่ในการรับมือปัญหาหนี้สินในภูมิภาค หลังจากที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสและนายกรัฐมนตรีเยอรมนีบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนการช่วยเหลือกรีซและการใช้มาตรการเสริมสภาพคล่องให้กับภาคธนาคารของยุโรป นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังดีดตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐที่เคลื่อนไหวในแดนบวกระหว่างวัน ก่อนที่บริษัทต่างๆจะเริ่มทยอยเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสามซึ่งนักลงทุนคาดการณ์ว่าจะออกมาดี
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 85.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 1.31% ปิดที่ 108.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบได้แรงหนุนนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่าภาคธนาคารของยุโรปจะไม่ได้รับความเสียหายจากวิกฤตหนี้สาธารณะ หลังจากนางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแนวทางการเสริมสภาพคล่องให้กับภาคธนาคารของยุโรป โดยแมร์เคลย้ำว่าผู้นำยุโรปจะดำเนินการตามมาตรฐานขั้นพื้นฐานและคำนึงถึงความมั่นคงในเชิงระบบเป็นหลัก และเยอรมนีและฝรั่งเศสจะเสนอมาตรการดังกล่าวภายในเดือนนี้
สัญญาน้ำมันดิบสามารถปิดบวกได้ แม้กลุ่มโอเปคปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกสำหรับปี 2554 และ 2555 เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยโอเปคคาดว่า ความต้องการน้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 880,000 บาร์เรล/วัน เป็น 87.81 ล้านบาร์เรล/วัน ต่ำกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ซึ่งอยู่ที่ 87.99 ล้านบาร์เรล/วัน
สำหรับปี 2555 โอเปคประมาณการว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 89.01 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับทบทวนลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 89.26 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังดีดตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐที่เคลื่อนไหวในแดนบวกระหว่างวัน ก่อนที่บริษัทต่างๆจะเริ่มทยอยเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสามซึ่งนักลงทุนคาดการณ์ว่าจะออกมาดี ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูผลการลงมติของรัฐสภาสโลวาเกียต่อแผนการเพิ่มขนาดกองทุน (EFSF) หลังจากที่สมาชิก 16 ประเทศของยูโรโซนได้ลงมติอนุมัติการขยายกองทุนดังกล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 800,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 100,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.9%
ทั้งนี้ EIA ได้เลื่อนการเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบออกไป 1 วัน จากปกติที่จะมีการเปิดเผยในวันพุธ เนื่องจากหน่วยงานราชการของสหรัฐปิดทำการในวันจันทร์ที่ 10 ต.ค.เนื่องในวันโคลัมบัส