ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) สัญญาธัญพืชพุ่งแรง หลังเทรดเดอร์บางรายเร่งซื้อสัญญาเพื่อหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนในช่วงก่อนการเปิดเผยรายงานของกระทรวงเกษตรของสหรัฐ (USDA)
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 6.6% ปิดที่ 6.45 ดอลลาร์/บุชเชล ในขณะที่ สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 49.25 เซนต์ หรือ 8.1% ปิดที่ 6.6075 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ หรือ 4.9% ปิดที่ 12.355 ดอลลาร์/บุชเชล
ถึงแม้ว่า การคาดการณ์ทางการค้าจะระบุว่าว่า USDA อาจรายงานยอดสต๊อกข้าวโพดส่วนเกินจำนวนมากในระดับหนึ่ง รวมทั้งข้อมูลดังกล่าวอาจจะกดราคาข้าวโพดลง แต่ก็มีการเร่งซื้อสัญญาในช่วงสุดท้ายของการซื้อขาย เพื่อป้องกันความเสี่ยงอันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของผลการรายงาน
แดน เซกานเดอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยธัญพืชจากนิวเอดจ์ ยูเอสเอ แอลแอลซี กล่าวว่า "ตลาดมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับยอดผลผลิตโดยเฉลี่ย เนื่องจากข้อมูลการเก็บเกี่ยวข้าวโพดและถั่วเหลืองในช่วงหลังบ่งชี้ว่า ได้ยอดผลผลิตที่ลดลงจากการเก็บเกี่ยวในช่วงก่อนหน้านั้น"
นายเซกานเดอร์ระบุว่า ผลผลิตข้าวโพดโดยเฉลี่ยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบ 1 บุชเชลต่อเอเคอร์ ในขณะที่ผลผลิตเฉลี่ยของถั่วเหลืองคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณครึ่งบุชเชล
นอกจากนี้ นายเซกานเดอร์ยังกล่าวเสริมว่า "เทรดเดอร์วิตกว่า ตลาดได้คาดการณ์ยอดผลผลิตเฉลี่ยไว้สูงเกินไปสำหรับการรายงานอุปสงค์-อุปทานของ USDA ในวันพรุ่งนี้"
ในขณะเดียวกัน บรรยากาศของตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวที่ว่า จีนได้สั่งซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐรายงานผลการตรวจสอบยอดสต๊อกของ USDA บ่งชี้ว่า ยอดสต๊อกถั่วเหลืองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 23.4 ล้านบุชเชล ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการคาดการณ์ทางการค้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน