สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลก อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากภาวะการซื้อขายในตลาดได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และจากข่าวที่ว่าพรรคการเมืองต่างๆของสโลวาเกียบรรลุข้อตกลงที่จะรับรองการเพิ่มอำนาจให้กับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF)
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 85.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงหลังจาก IEA ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2554 ลง 50,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 990,000 บาร์เรล และคาดว่าอุปสงค์ในปี 2555 จะขยายตัวในอัตรา 1.25 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งต่ำกว่าที่ได้ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ราว 160,000 บาร์เรล/วัน เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกทำให้อุปสงค์น้ำมันมีความเสี่ยงที่จะหดตัวลง
การคาดการณ์ของ IEA มีขึ้นหลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกสำหรับปี 2554 และ 2555 เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
โอเปคคาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 880,000 บาร์เรล/วัน เป็น 87.81 ล้านบาร์เรล/วัน ต่ำกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ซึ่งอยู่ที่ 87.99 ล้านบาร์เรล/วัน สำหรับปี 2555 โอเปคประมาณการว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 89.01 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับทบทวนลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 89.26 ล้านบาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าพรรคการเมืองต่างๆของสโลวาเกีย รวมถึงพรรคฝ่ายค้าน ได้บรรลุข้อตกลงที่จะรับรองการเพิ่มอำนาจให้กับกองทุน EFSF ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความหวังว่ารัฐสภาสโลวาเกียจะมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนให้กับกองทุนดังกล่าวในการประชุมครั้งต่อไป
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนหลังจากนายโฮเซ มานุเอล บาร์โรโซน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เปิดเผยแผนการเพิ่มทุนให้กับภาคธนาคาร ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร และเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นด้วย