ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ต.ค.) สัญญาธัญพืชปรับตัวลดลงเนื่องจากแรงเทขายจำนวนมากจากกองทุน ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับหนี้สินยุโรป และบรรยากาศที่เป็นลบในตลาดอื่นๆ นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ยังเพิ่มบรรยากาศที่เป็นลบให้กับตลาด CBOT อีกด้วย
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 13.5 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 6.3725 ดอลลาร์/บุชเชล ในขณะที่ สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 16.75 เซนต์ หรือ 2.5% ปิดที่ 6.195 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 15 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดทรงตัวที่ 12.105 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์กล่าวว่า กองทุนได้เทขายสัญญาในระยะยาวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นในเรื่องความสามารถของผู้นำยุโรปในการแก้ปัญหาวิกฤติหนี้สินของภูมิภาค ซึ่งมีแนวโน้มทำให้ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง และอาจส่งผลให้อุปสงค์ด้านธัญพืชลดลง
ในขณะเดียวกัน กระแสข่าวที่ว่า บริษัทโบรกเกอร์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งอาจจะเทขายสัญญาที่ถือครองในตลาดธัญพืช, ปศุสัตว์ และ น้ำมัน ถ้าหากว่าบริษัทขายกิจการ ได้เพิ่มแรงกดดันต่อตลาดมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ยังเพิ่มแรงกดดันต่อสินค้าโภคภัณฑ์โดยทั่วไป โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเปรียบเทียบค่าเงินสกุลดอลลาร์เทียบค่าเงินสกุลหลัก 6 สกุลในตระกร้าเงิน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.05% มาซื้อขายในระหว่างวันที่ 76.3 จุด
สำหรับตลาดข้าวโพดและถั่วเหลือง สภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในฤดูกาลเพาะปลูกในอเมริกาใต้ ถูกมองว่าเป็นปัจจัยลบต่อตลาดในระยะสั้น และถึงแม้ว่ายอดผลผลิตเอทธานอลจะเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ได้เป็นแรงหนุนต่อตลาด โดยข้อมูลสถิติบ่งชี้ว่า ยอดผลผลิตเอทธานอลประจำสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 21 ต.ค. ของสหรัฐ อยู่ที่ 6.363 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นตัวเลขประจำสัปดาห์ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัวรายงาน