สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) หลังจากมีรายงานว่ากรีซกำลังหารือกันเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่เพื่อผ่านร่างกฎหมายการรับความช่วยเหลือของสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนผ่อนคลายจากความวิตกกังวลที่ว่าวิกฤตหนี้กรีซจะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยูโรโซน นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐในวันพุธนี้
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้น 1.26 ดอลลาร์ หรือ 1.34% ปิดที่ 95.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.เป็นต้นมา
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2.59 ดอลลาร์ หรือ 2.31% ปิดที่ 114.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ วันที่ 14 ต.ค.
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับข่าวการเตรียมจัดตั้งรัฐบาลผสมของกรีซ หลังจากที่พรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านของกรีซได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลผสมที่มีเอกภาพ เพื่อรับมือกับวิกฤตหนี้ยุโรป ภายหลังจากนายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันเดรอู ประกาศลาออก
รายงานระบุว่า พรรคสังคมนิยมของนายปาปันเดรอูและพรรคนิวเดโมเครซี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก ได้ประชุมหารือกันเมื่อวานนี้ เพื่อสรุปสัดส่วนในรัฐบาลชุดใหม่ รวมถึงเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 พ.ย.จะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล ขณะเดียวกันคาดว่า สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล นอกจากนี้คาดว่า อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.1%
ธนาคารกลางเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะเคลื่อนไหวเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากภาวะอุปทานตึงตัว และการลงทุนแบบเก็งกำไร รวมทั้งความหวั่นวิตกทางการเมืองในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ