สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลก นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่านายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี นายกรัฐมนตรีอิตาลีประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่ง หลังจากรัฐสภาอิตาลีลงมติอนุมัติกฎหมายปฏิรูปงบประมาณ และข่าวที่ว่าอิหร่านเดินหน้าพัฒนาโครงการนิวเคลียร์
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.28 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 96.80 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.เป็นต้นมา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ดีดตัวขึ้นหลังจากโอเปคเปิดเผยรายงาน "World Oil Outlook" ในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยโอเปคคาดว่าความต้องการน้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 92.9 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2558
ตลาดน้ำมัน NYMEX ได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่าแบร์ลุสโคนี นายกรัฐมนตรีอิตาลีประกาศว่า เขาจะลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรอิตาลีมีมติรับรองร่างกฏหมายปฏิรูปงบประมาณ ซึ่งการประกาศลงจากตำแหน่งของนายแบร์ลุสโคนีทำให้นักลงทุนมองว่าจะช่วยลดอุปสรรคในการปฏิรูปเศรษฐกิจ และจะช่วยให้อิตาลีสามารถจัดการกับปัญหาหนี้ได้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความตึงเครียดในตะวันออกกลางและจะหนุนราคานำมันดิบพุ่งขึ้นอีก หลังจากสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) เปิดเผยว่า อิหร่านกำลังเดินหน้าพัฒนาการออกแบบอาวุธนิวเคลียร์
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 พ.ย.จะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล ขณะเดียวกันคาดว่า สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล นอกจากนี้คาดว่า อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.1%