ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนที่ผ่านมา (8 พ.ย.) สัญญาธัญพืชปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สหรัฐอาจปรับลดยอดสต๊อกลงในการเปิดเผยรายงานในวันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) นอกจากนี้ การอ่อนค่าลงของเงินสกุลดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด CBOT อีกด้วย
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7.25 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 6.605 ดอลลาร์/บุชเชล ในขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 18.25 เซนต์ หรือ 2.9% ปิดที่ 6.57 ดอลลาร์/บุชเชลและ สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 3.25 เซนต์ หรือ 0.27% ปิดที่ 12.05 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์กล่าวว่า กองทุนและผู้บริโภคเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของตลาด เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่ากระทรวงเกษตรของสหรัฐ (USDA) อาจปรับลดคาดการณ์ยอดสต๊อกข้าวโพดและข้าวสาลีลงในการเปิดเผยรางานอุปสงค์/อุปทานในวันนี้ ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนเลือกที่จะปรับเพิ่มการถือครองสัญญาก่อนได้รับข่าวดี
ตลาดคาดว่า ยอดสต๊อกข้าวโพดของสหรัฐอาจจะลดลง 70-75 ล้านบุชเชล จากยอด 866 ล้านบุชเชล ในเดือนตุลาคมและยอดผลผลิตเฉลี่ยคาดว่าจะลดลง 0.5 บุชเชลต่อเอเคอร์ จาก 148.1 บุชเชลต่อเอเคอร์ ในขณะเดียวกัน เทรดเดอร์ยังคาดว่า ยอดสต๊อกข้าวสาลีอาจลดลง 20 ล้านบุชเชล จากยอด 837 ล้านบุชเชลในเดือนตุลาคม
ทั้งนี้ แม้มีการคาดการณ์ว่ายอดสต๊อกถั่วเหลืองจะเพิ่มขึ้น 20-25 ล้านบุชเชลจากยอดประมาณการณ์ในเดือนตุลาคม แต่การที่สัญญาถั่วเหลืองร่วงลงในช่วงก่อนหน้านี้ได้ช่วยดึงดูดนักเก็งกำไร และช่วยให้ตลาดปรับตัวสูงขึ้นด้วย
นอกจากนี้ การอ่อนค่าลงของเงินสกุลดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนที่ผลักดันตลาดธัญพืชโดยรวม โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ซื้อขายที่ประมาณ 76.6 จุด เมื่อวานนี้ ลดลง 5% จากการซื้อขายในวันจันทร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน