สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนต.ค. นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจเยอรมนีและฝรั่งเศสที่ยังคงขยายตัวได้ดีในไตรมาส 3 ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนทศด้านพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.23 จุด หรือ 1.25% ปิดที่ 99.37 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1784.0 - 1770.2 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.45% ปิดที่ 112.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 0.5% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% เพราะได้แรงหนุนจากยอดขายในกลุ่มยานยนต์และวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตในรัฐนิวยอร์ก (Empire State Index) เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.6 จุดในเดือนพ.ย. จากระดับ -8.5 ของเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมด้านการผลิตของรัฐที่มีขนาดใหญ่อย่างนิวยอร์กนั้น เริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว และมีแนวโน้มว่าจะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้แข็งแกร่งขึ้นในไตรมาส 4 ปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจเยอรมนีและฝรั่งเศสที่ยังคงขยายตัวได้ดี โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเยอรมนี ขยายตัว 0.5% ในไตรมาส 3 เพราะได้ปัจจัยหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศสเปิดเผยว่า จีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัว 0.4% โดยได้รับแรงหนุนจากภาคการผลิต ดุลการค้าระหว่างประเทศ และการบริโภคภาคครัวเรือนที่ดีดตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม ช่วงบวกของตลาดน้ำมัน NYMEX ถูกสกัดลงเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สาธารณะของยุโรป หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีดีดขึ้นไปยืนเหนือระดับ 7% อีกครั้งเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐก็ได้สร้างแรงกดดันให้กับตลาดน้ำมัน NYMEX ด้วย
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 พ.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 700,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ คาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.4%