ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบพุ่ง $3.22 จากข่าวท่อส่งน้ำมันซีเวย์

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 17, 2011 07:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนเมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวการพลิกกลับเส้นทางการจัดส่งน้ำมันของท่อส่งซีเวย์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงของสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 3.22 ดอลลาร์ หรือ 3.24% ปิดที่ 102.59 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 102.89 - 98.39 ดอลลาร์

บริษัทเอนบริดจ์ แอนด์ เอนเตอร์ไพรซ์ โพรดัคส์ พาร์เนอร์ส ซึ่งเป็นเจ้าของท่อส่งน้ำมันซีเวย์ออกแถลงการณ์ว่า ทางบริษัทวางแผนจะพลิกกลับทิศทางการจัดส่งน้ำมันในท่อส่งน้ำมันซีเวย์ ซึ่งมีกำลังการจัดส่ง 350,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้มีการจัดส่งน้ำมันจากเขตมิดเวสต์ของสหรัฐ ไปยังเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส จากปัจจุบันที่ท่อส่งน้ำมันดังกล่าวจัดส่งน้ำมันจากชายฝั่งกัลฟ์โคสต์ของสหรัฐ ไปยังศูนย์กลางการจัดเก็บน้ำมันที่เมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา โดยมีเป้าหมายที่จะลดปริมาณน้ำมันส่วนเกินในศูนย์กลางการจัดเก็บน้ำมันที่เมืองคุชชิง

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เรย์มอนด์ คาร์โบน ประธานบริษัทพาราเมาท์ ออพชันส์ ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์น้ำมันของสหรัฐ กล่าวแสดงความเห็นว่า "ปัจจัยที่ทำให้สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐาน และไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในยูโรโซนหรือตลาดหุ้น แต่มาจากการประกาศปรับเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงน้ำมันดิบซีเวย์ "

สัญญาน้ำมัน NYMEX ยังได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 พ.ย.ลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 337.0 ล้านบาร์เรล ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นร่วงลง 2.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 133.7 ล้านบาร์เรล เกือบเท่ากับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 205.2 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 700,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 2.2% สู่ระดับ 84.2% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐซึ่งครอบคลุมถึงผลผลิตในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ โรงงาน และสาธารณูปโภคพื้นฐาน ขยายตัว 0.7% ในเดือนตุลาคม หลังจากที่หดตัว 0.1% ในเดือนกันยายน ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า จะขยายตัวเพียง 0.4%

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ หดตัวลง 0.1% ในเดือนตุลาคม นับเป็นสถิติที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ส่งสัญญาณว่าแรงกดดันเงินเฟ้ออาจเริ่มปรับตัวลดลงแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ