สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าอาจจะเกิดภาวะติดขัดด้านอุปทานน้ำมัน อันเนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลาง รวมถึงความขัดแย้งเกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน และสถานการณ์ความไม่สงบในอียิปต์และลิเบีย อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.62% ปิดที่ 96.77 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 97.55 - 94.99 ดอลลาร์ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.38 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วอลุ่มการซื้อขายในตลาดน้ำมัน NYMEX อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 30 วันอยู่ถึง 67% เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐ ขณะที่วอลุ่มการซื้อขายน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 30 วันอยู่ประมาณ 54% นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เพื่อเก็งกำไร อันเนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะความขัดแย้งเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยสหรัฐ อังกฤษ และแคนาดาประกาศคว่ำบาตรอุตสาหกรรมพลังงานและการเงินของอิหร่าน เพื่อตอบโต้ที่อิหร่านเดินหน้าพัฒนานิวเคลียร์ แต่จีนได้ออกมาคัดค้านการคว่ำบาตรอิหร่าน โดยกล่าวว่า การใช้มาตราการคว่ำบาตรไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาของอิหร่าน แต่จะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง อีกทั้งจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการสันติภาพและเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากหลายประเทศในยูโรโซนถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ รวมถึงเบลเยียมที่ถูกสแตนดาร์ด แอนด์พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 1 ขั้น สู่ระดับ AA จากระดับ AA+ และโปรตุเกสถูกฟิทช์ เรทติ้งส์ ลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 1 ขั้น สู่ระดับ BB+ (ระดับขยะ) จากระดับ BBB-
ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ยุโรปได้ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมัน NYMEX ซบเซาลงด้วย หลังจากที่นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ยังคงเดินหน้าคัดค้านการออกพันธบัตรยูโรและการเพิ่มบทบาทของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในการแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ซึ่งส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และยังสร้างแรงกดดันให้กับสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ในอีกทางหนึ่งด้วย