ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ (25 พ.ย.) สัญญาธัญพืชยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังเงินสกุลดอลลาร์แข็งค่า ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติหนี้สินในยูโรโซน นอกจากนี้ ยอดส่งออกข้าวโพดที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ยังเพิ่มบรรยากาศที่เป็นลบให้กับตลาดอีกด้วย
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 5.5 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 5.9 ดอลลาร์/บุชเชล ในขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 5.25 เซนต์ หรือ 0.88% ปิดที่ 5.89 ดอลลาร์/บุชเชลและสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 16 หรือ 1.4% ปิดที่ 11.065 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์ในตลาดกล่าวว่า ตลาด CBOT ได้ฟื้นตัวอย่างน่าพอใจในช่วงเช้า แต่ก็ไม่สามารถดีดตัวได้ต่อเนื่องในช่วงบ่ายและปิดตลาดลดลง เนื่องจากการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรขาดความน่าสนใจ
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเปรียบเทียบค่าเงินสกุลดอลลาร์เทียบค่าเงินสกุลหลัก 6 สกุลในตระกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.66% มาซื้อขายที่ระดับ 79.61 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกัน ยอดส่งออกข้าวโพดประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 17 พ.ย. อยู่ที่ 350,000 ตัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ ส่วนปัจจัยลบอื่นๆ รวมไปถึงกระแสข่าวที่ว่า ประเทศผู้นำเข้ารายใหญ่อย่าง ญี่ปุ่น จะหันไปใช้ข้าวสาลีเลี้ยงสัตว์แทนข้าวโพดมากขึ้นในปีนี้
เจ้าหน้าที่อาร์เจนตินารายหนึ่งกล่าวว่า อาร์เจนตินาจะอนุญาตให้ส่งออกข้าวสาลีเพิ่ม 2.5-3.5 ล้านตัน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ตลาดข้าวสาลีอ่อนแรงลง
อย่างไรก็ตาม รายงานยอดส่งออกข้าวสาลีและถั่วเหลืองประจำสัปดาห์อยู่ที่ 614,500 และ 921,600 ตันตามลำดับ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงการคาดการณ์ของตลาดทั้ง 2 รายการ และได้ช่วยสกัดไม่ให้ราคาลดลงมากเกินไป สำนักข่าวซินหัวรายงาน