สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีที่สามารถระดมทุนได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายสูงสุดที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากความขัดแย้งเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน หลังจากมีรายงานว่ากลุ่มผู้ประท้วงชาวอิหร่านได้บุกเข้าโจมตีสถานทูตอังกฤษในกรุงเตหะราน เพื่อตอบโต้อังกฤษที่ประกาศใช้มาตการคว่ำบาตรอิหร่าน
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ปิดบวก 1.58 ดอลลาร์ หรือ 1.61% แตะที่ 99.79 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 100.15 - 97.23 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากรัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนจากการประมูลพันธบัตรชุดใหม่ครั้งที่ 3 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยได้ทั้งสิ้น 7.5 พันล้านยูโร ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ที่ 8 พันล้านยูโร
ทั้งนี้ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 3 ปีที่มีการประมูลในครั้งนี้จะสูงกว่าระดับ 7% แต่การที่รัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนได้เป็นจำนวนมากย่อมสะท้อนให้เห็นว่าอิตาลียังคงสามารถเข้าถึงแหล่งระดมทุนในตลาดการเงินได้ ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคาดหวังว่า นายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติของอิตาลีซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการประชุมรมว.คลังยูโรโซนที่เมืองบรัสเซลส์นั้น จะสามารถรางแผนปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ
ส่วนปัจจัยอื่นๆที่ช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้นได้แก่สถานการณ์ตึงเครียดเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยล่าสุดมีรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงได้บุกเข้าไปยังสถานทูตอังกฤษในกรุงเตหะราน เพื่อตอบโต้อังกฤษที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่ออุปทานพลังงาน และจะหนุนราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอีก
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 56 จุดในเดือนพ.ย. จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 40.9 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 44.0 ในเดือนพ.ย. ซึ่งนับเป็นสัญญาณล่าสุดที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากยอดค้าปลีกในช่วงหยุดสุดสัปดาห์เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐ พุ่งขึ้น 16% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.24 หมื่นล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.2%