สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ได้ออกมาแสดงความกังวลว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอาจได้รับแรงกดดันจากวิกฤตหนี้ยุโรป นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังอ่อนแรงลงหลังจากที่ประชุมรมว.ต่างประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการห้ามซื้อขายน้ำมันกับอิหร่าน อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะตลาดได้แรงหนุนจากดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง และความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรของสเปน
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ขยับลง 16 เซนต์ หรือ 0.16% ปิดที่ 100.20 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 101.17 - 98.87 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 1.53 ดอลลาร์ หรือ 1.38% ปิดที่ 108.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังจากมีรายงานว่า ที่ประชุมรมว.ต่างประเทศกลุ่มอียูยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการห้ามซื้อขายน้ำมันกับอิหร่านได้ "เพราะมีบางประเทศคัดค้าน" ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ลดน้ำหนักของกระแสคาดการณ์ที่ว่าอาจจะเกิดภาวะอุปทานตึงตัวในตะวันออกกลาง
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ได้รับแรงกดดันมากขึ้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะซบเซาในตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่แล้ว พุ่งแตะ 402,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 396,000 ราย ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 เดือนที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐพุ่งขึ้นมายืนเหนือระดับ 400,000 ราย
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันหลังจากโกลด์แมน แซคส์ ระบุในรายงานว่า "เรายังคงมองว่าตลาดน้ำมันดิบมีแนวโน้มที่เป็นลบ เพราะถึงแม้ว่ามีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะอุปทานตึงตัวในตลาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่หนุนราคาสูงขึ้นนั้น แต่ราคาน้ำมันดิบก็ยังคงได้รับแรงกดดันจากวิกฤตหนี้ยุโรปที่อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยในอนาคตอันใกล้ ซึ่งก็จะทำให้ความต้องการน้ำมันดิบหดตัวลงด้วย"
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะตลาดได้แรงหนุนจากดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง และข่าวที่ว่าสเปนสามารถประมูลขายพันธบัตรได้ 3.7 พันล้านยูโร (5.1 พันล้านดอลลาร์) เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายสูงสุดที่ธนาคารกลางกำหนดไว้
ทั้งนี้ สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 52.7 จุด จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 50.8 จุด และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 51.5 จุด โดยดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.ขยายตัวแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีนี้