สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในอิหร่าน อันเนื่องมาจากความขัดแย้งเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ นอกจากนี้ จากตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่าผู้นำยุโรปจะเร่งหาแนวทางป้องกันการลุกลามของวิกฤตหนี้ หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 15 ประเทศในยูโรโซน
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ปิดบวก 29 เซนต์ แตะที่ 101.28 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 101.42 - 100.20 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.ปิดบวก 1 ดอลลาร์ หรือ 0.91% ปิดที่ 110.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 109.04 - 110.96 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อิหร่านซึ่งเป็นสมาชิกรายใหญ่ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) อาจจะได้รับผลกระทบจากการที่อังกฤษและสหรัฐประกาศคว่ำบาตรด้านเศรษฐกิจและพลังงานต่ออิหร่าน เพื่อตอบโต้โครงการนิวเคลียร์อิหร่านและการชาวอิหร่านบางกลุ่มได้บุกรุกเข้าไปสร้างความเสียหายภายในสถานทูตอังกฤษประจำกรุงเตหะราน
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ยังปรับตัวขึ้นหลังจากมีการคาดการณ์ว่า ที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูจะหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มทุนทรัพย์ให้กับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมการลุกลามของวิกฤตหนี้ และหลังจากเยอรมนีรายงานว่า ยอสั่งซื้อใหม่ของโรงงานอุตสาหกรรมภายในประเทศ พุ่งขึ้น 5.2% ในเดือนต.ค. ซึ่งฟื้นตัวขึ้นจากเดือนก.ย.ที่หดตัวลง 4.6%
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากภาวะการซื้อขายได้รับแรงกดดันหลังจากเอสแอนด์พีเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 15 ประเทศในยูโรโซน รวมถึงเยอรมนี หากที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูซึ่งจะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ ไม่มีความคืบหน้าในการหาแนวทางควบคุมวิกฤตหนี้
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำที่สิ้นสุดวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 600,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.5%
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูการประชุมโอเปคในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ หลังจากนายอับดุล การีม อัล-ลออิบี รมว.พลังงานของอิรักคาดการณ์ว่า โอเปคอาจจะลดปริมาณการผลิตในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่นายรอสตาม กาเซมี รมว.น้ำมันของอิหร่านกล่าวว่า อุปทานและอุปสงค์น้ำมันมีความสมดุล และราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันที่ระดับราว 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ถือเป็นระดับที่สมเหตุสมผล