ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) สัญญาธัญพืชขยับขึ้น เพราะได้แรงหนุนจากกระแสข่าวที่ว่า ตลาดมีแรงเทขายที่สูงเกินไปผนวกกับการอ่อนค่าเงินสกุลดอลลาร์ หลังจากที่ราคาข้าวโพดร่วงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม ในการซื้อขายระหว่างวัน แต่ก็สามารถดีดกลับมาปิดในแดนบวกได้
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 5.5 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 5.965 ดอลลาร์/บุชเชล ในขณะที่ สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.5 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 6.13 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 3.25 หรือ 0.3% ปิดที่ 11.295 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์ในตลาดกล่าวว่า เทรดเดอร์เปลี่ยนจากเทขายมาเป็นช้อนซื้อ เพราะกระแสข่าวเกี่ยวกับแรงเทขายที่สูงเกินไปได้ดึงดูดกองทุนกลับเข้ามาช้อนซื้อมากขึ้น นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์และการคาดการณ์เกี่ยวกับสภาพอากาศที่แห้งแล้งในบางพื้นที่ของอเมริกาใต้ยังเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดอีกด้วย
ทั้งนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปด้ในการลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศในยุโรปลง และแรงเทขายในช่วงก่อนหน้านี้ต่างก็กดความเชื่อมั่นของตลาดลง ส่งผลให้ราคาข้าวโพดร่วงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม และได้ดึงดูดนักลงทุนให้กลับเข้ามาช้อนซื้อ ณ ราคาในระดับต่ำ
ในขณะเดียวกัน ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเปรียบเทียบค่าเงินสกุลดอลลาร์เทียบค่าเงินสกุลหลัก 6 สกุลในตระกร้าเงิน ซื้อขายอยู่ที่ระดับ 78.54 จุดเมื่อวานนี้ ลดลง 0.084% จากการซื้อขายในวันก่อน ซึ่งโดยปกติแล้ว การอ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์จะเป็นแรงหนุนต่อสินค้าโภคภัณฑ์
นอกจากนี้ ธัญพืชยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเนื่องจากเทรดเดอร์ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ราคาส่งออกของข้าวสาลีของรัสเซียยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับเดิมในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่า สต๊อกข้าวสาลีสำหรับส่งออกของรัสเซียจะตึงตัวในอีกไม่ช้านี้ นอกเหนือไปจากนั้น ยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการพยากรณ์ถึงสภาพอากาศที่แห้งแล้งในบางพื้นที่ของอาร์เจนตินาและบราซิลในช่วงอีก 10 วันข้างหน้าอีกด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน