ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ธ.ค.) สัญญาถั่วเหลืองปิดบวก เนื่องจากนักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับสภาพอากาศแห้งแล้งในทวีปอเมริกาใต้ ขณะที่สัญญาข้าวสาลีก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
สัญญาส่งมอบข้าวโพดเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.7 % ปิดที่ 5.83 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญส่งมอบข้าวสาลีเดือนมี.ค. 2554 เพิ่มขึ้น 4.5 เซนต์ หรือ 0.8 % ปิดที่ 5.8375 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญส่งมอบถั่วเหลืองเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 18.25 เซนต์ หรือ 1.6 % ปิดที่ 11.3 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
เทรดเดอร์กล่าวว่าสภาพอากาศที่รุนแรงในพื้นที่ตอนใต้ของบราซิลและอาร์เจนติน่าช่วยดันราคาธัญพืชให้สูงขึ้น เพราะมีการพยาการณ์อากาศว่าฝนจะตกน้อยกว่าปกติต่อไปในพื้นที่ตอนใต้ของบราซิลและอาร์เจนติน่าในสัปดาห์หน้า
ข้อมูลของรัฐบาลบราซิลระบุว่า สภาพอากาศในเมืองริโอ แกรนด์ ดู ซัลของบราซิล ซึ่งเป็นแหล่งผลิตถั่วเหลืองในสัดส่วน 14% ของผลผลิตถั่วเหลืองทั้งหมดในบราซิลผลิตและผลิตข้าวโพดในสัดส่วน 10% นั้น เผชิญกับสภาพอากาศแห้งแล้งติดต่อกันเป็นเวลา 6 สัปดาห์แล้ว และแม้ว่าสภาพอากาศในพื้นที่บางส่วนมีแนวโน้มดีขึ้นในสัปดาห์ แต่คาดว่ายังมีพื้นที่อีกหลายส่วนที่ยังแห้งแล้งอยู่ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์กันว่า สภาพอากาศที่เลวร้ายจะทำให้ผลผลิตในทวีปอเมริกาใต้ลดลง และกระตุ้นให้ผลผลิตจากสหรัฐเป็นที่ต้องการมากขึ้น
สัญญาข้าวสาลีได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และความผันผวนที่น้อยลงของตลาดการเงิน ขณะที่สัญญาถั่วเหลืองพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าสัญญาถั่วเหลือถูกเทขายมากเกินไปในช่วงที่ผ่านมานั้น ได้กระตุ้นให้มีแรงซื้อส่งเข้ามาในช่วงเช้า
อย่างไรก็ตาม แรงบวกของข้าวสาลีถูกจำกัดลง เนื่องจากมีการพยากรณ์อากาศว่า สภาพอากาศที่มีฝนตกสลับกับหิมะจะเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่พื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีในพื้นที่ตอนใต้และทางตะวันออกในเขตที่ราบที่ราบทางภาคใต้ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน