สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนก.พ.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก ปรับตัวลดลง 43 เซนต์ แตะที่ 100.91 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 13.09 น.ในกรุงลอนดอน เนื่องจากแรงขายทำกำไร หลังจากที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 1.66 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ระดับ 101.34 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน ประกอบกับนักลงทุนไม่สนใจคำขู่ของอิหร่านเรื่องการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นช่องทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญ โดยมองว่าอิหร่านจะไม่ทำตามที่กล่าวอ้าง
สำนักข่าว IRNA ของอิหร่านรายงานว่า นายโมฮัมหมัด เรซ่า ราฮีมี รองประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านจะหยุดส่งออกน้ำมันผ่านทางช่องแคบฮอร์มุซหากโลกตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่ออิหร่าน
อย่างไรก็ดี นายมาร์ค โทเนอร์ รองโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า อิหร่านแค่พยายามเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาที่แท้จริง นั่นคือการที่อิหร่านดำเนินโครงการนิวเคลียร์โดยขัดต่อพันธะผูกพันระหว่างประเทศ
ขณะที่นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า การปิดช่องแคบฮอร์มุซเป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับอิหร่าน โดยนักลงทุนไม่เชื่อว่า อิหร่านจะทำเช่นนั้นจริง เพราะอาจเสี่ยงที่จะต้องแลกกับการสนับสนุนจากจีนและรัสเซีย
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า มีการขนส่งน้ำมัน 15.5 ล้านบาร์เรลต่อวันผ่านช่องแคบฮอร์มุซ โดยกว่า 75% ของน้ำมันที่ขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่เอเชีย โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น อินเดีย และเกาหลีใต้