สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นเหนือรระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันอังคาร นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ฉุดสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 1.98 ดอลลาร์ หรือ 1.95% ปิดที่ 99.36 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 101.71 - 99.11 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 1.71 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 107.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไร ภายหลังจากสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันอังคาร ขณะที่การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐก็เป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงเช่นกัน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่อิตาลีจะเปิดประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีในคืนนี้ตามเวลาไทย แม้อิตาลีสามารถระดมทุนได้ 9 พันล้านยูโร (1.18 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนเมื่อวานนี้ โดยให้อัตราดอกเบี้ยที่ 3.251% ซึ่งต่ำกว่าการประมูลครั้งก่อนที่ระดับ 6.504% ก็ตาม
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ธนาคารพาณิชย์ในยุโรปได้นำเงินมาฝากไว้กับอีซีบีเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.52 แสนล้านยูโร (5.91 แสนล้านดอลลาร์) เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 4.12 แสนล้านยูโรในวันก่อนหน้านั้น สะท้อนให้เห็นว่าธนาคารลังเลที่จะเข้าซื้อพันธบัตรของประเทศที่ประสบปัญหาในยุโรโซน ซึ่งขัดกับเจตนารมณ์ของอีซีบี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดน้ำมัน NYMEX ได้รับปัจจัยลบมากขึ้นเมื่อซาอุดิอาระเบียยืนยันว่าจะผลิตน้ำมันเพื่อชดเชยภาวะขาดแคลน หากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านส่งผลให้การลำเลียงน้ำมันในตะวันออกกลางสะดุดลง
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 ธ.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA)จะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 400,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะขยับขึ้นเล็กน้อย และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะทรงตัวที่ 84.9%