สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 ม.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์พลังงานของสหรัฐเริ่มชะลอตัว อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมัน NYMEX ยังสามารถเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากตลาดขานรับข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปรับตัวลง 1.41 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ระดับ 101.81 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 103.73 - 101.34 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.ปรับตัวลง 96 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 112.74 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 112.26 - 114.64 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง โดย EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค.พุ่งขึ้น 2.21 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 200,000 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 3.22 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 800,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 2.48 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.8% แตะที่ 85%
นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ร่วงลงด้วย โดยสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่าและมีความเสี่ยงสูงกว่าอย่างสกุลเงินยูโร และหันไปถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีความปลอดภัยมากกว่า
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัดและยังสามารถประคองตัวอยู่เหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลได้ เพราะตลาดได้แรงหนุนจากข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ รวมถึงการจ้างงานของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น 325,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 178,000 ตำแหน่ง และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. ลดลง 15,000 ราย มาอยู่ที่ 372,000 ราย ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ