สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนก.พ.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก พุ่งขึ้น 1.46 ดอลลาร์ แตะที่ 102.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 13.15 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวานนี้ที่ 100.87 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า เหตุการณ์ประท้วงในไนจีเรียและการคว่ำบาตรอิหร่านเพื่อตอบโต้โครงการนิวเคลียร์ จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบหดตัวลง
สหภาพแรงงานไนจีเรียได้เริ่มปิดแท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่สุดในแอฟริกา เพื่อประท้วงบีบให้ประธานาธิบดีกู๊ดลัค โจนาธาน อนุมัติให้มีการจ่ายเงินอุดหนุนราคาน้ำมันอีกครั้ง หลังจากการยกเลิกการจ่ายเงินดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันภายในประเทศพุ่งขึ้นสองเท่า
ขณะเดียวกันนายจุน อาซุมิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น กล่าวว่า ญี่ปุ่นจะลดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านอย่างรวดเร็วและอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ตามรอยสหรัฐที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ซึ่งนายอาซุมิเปิดเผยเรื่องดังกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังพบปะหารือกับนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ที่กรุงโตเกียวในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เพราะได้แรงหนุนจากการที่ประเทศตะวันตกขู่คว่ำบาตรอิหร่านซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) หากอิหร่านปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือบรรทุกน้ำมันที่สำคัญของโลก
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐ คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบจะเคลื่อนไหวที่ระดับเฉลี่ย 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2555 ซึ่งสูงกว่าระดับเฉลี่ยของปี 2554 อยู่ราว 5 ดอลลาร์/บาร์เรล และคาดว่าราคาน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยในปี 2556 จะอยู่ที่ 106 ดอลลาร์/บาร์เรล