ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมันดิบปิดบวก 45 เซนต์หลังเฟดยืนยันตรึงดอกเบี้ยต่ำ

ข่าวต่างประเทศ Thursday January 26, 2012 07:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงปลายปี 2557 เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวผันผวน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดบวก 45 เซนต์ หรือ 0.5% แตะที่ 99.40 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 100.39 - 97.53 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 22 เซนต์ ปิดที่ 109.81 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 110.89 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงเช้านั้น สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสแกว่งตัวผันผวน หลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 ม.ค.พุ่งขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรล แตะที่ 334.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 800,000 บาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นร่วงลง 2.5 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 145.5 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัว และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 400,000 บาร์เรล แตะที่ 227.1 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันร่วงลง 1.5% แตะ 82.2%

แต่หลังจากนั้นไม่นาน สัญญาน้ำมันดิบก็ดีดตัวขึ้น หลังจากเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 0-0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และยืนยันว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นพิเศษไปจนถึงปลายปี 2557 โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอิหร่านยังคงเป็นปัจจัยที่กระตุ้นแรงซื้อเข้ามาในตลาดน้ำมันด้วย โดยล่าสุดรัฐมนตรีน้ำมันของอิหร่านได้ออกมาโจมตีมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านที่สหภาพยุโรป (อียู) ประกาศใช้เมื่อไม่นานมานี้ว่า เป็นเกมการเมือง

รัฐมนตรีต่างประเทศของชาติสมาชิกอียูมีมติห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านอย่างเป็นทางการในการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้อิหร่านที่ดำเนินโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งมติดังกล่าวกำหนดว่ารัฐบาลอียูต้องยุติการทำสัญญาฉบับใหม่กับอิหร่านทันทีที่คำสั่งห้ามมีผลบังคับใช้ ซึ่งน่าจะเป็นอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้

นางแคทเธอรีน แอชตัน หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู กล่าวว่า การคว่ำบาตรเป็นหนทางที่จะโน้มน้าวอิหร่านให้ยอมตกลงร่วมเจรจากับนานาประเทศได้ ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสในช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาไทยว่า สหรัฐจะใช้ทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อหยุดยั้งอิหร่านจากการผลิตอาวุธนิวเคลัยร์ แต่จะไม่เพิกเฉยเรื่องการใช้วิธีการแก้ปัญหาอย่างสันติ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ