ราคาน้ำมัน WTI ร่วง 95 เซนต์ เหตุวิตกอุปสงค์หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ Thursday February 2, 2012 20:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนมี.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ร่วงลง 95 เซนต์ เมื่อเวลา 12.01 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ มาอยู่ที่ 96.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาด

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 ม.ค.พุ่งขึ้น 4.18 ดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 3.02 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.1 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นขยับลงเพียง 135,000 บาร์เรล น้อยกว่าที่คาดว่าจะร่วงลง 1.2 ล้านบาร์เรล

ข้อมูลของ EIA ระบุว่า ความต้องการน้ำมันในสหรัฐอ่อนแอลงมากในรอบสัปดาห์ที่แล้ว โดยเฉพาะความต้องการน้ำมันเบนซินที่หดตัวลงรุนแรงถึง 7.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

การพุ่งขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหดตัวของอุปสงค์พลังงาน อันเนื่องมาจากผู้บริโภคปรับลดการใช้จ่าย โดยรายงานล่าสุดของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐไม่มีการขยายตัวในเดือนธ.ค.

อย่างไรก็ตาม แบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป คาดการณ์ว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับเฉลี่ยในปัจจุบันที่ 92 ดอลลาร์/บาร์เรล และคาดว่าสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน จะปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับปัจจุบันที่ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐ จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 145,000-150,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะอยู่ที่ระดับ 8.5% ในเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ